5 อาหารเพื่อสุขภาพ รสชาติเด็ด คนชอบเผ็ดทำทานได้อร่อยฟินๆ

อาหารเพื่อสุขภาพ
สารบัญบทความ

เราทุกคนต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า การที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ได้นั้น จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองให้ดีในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนทราบกันดี

แต่ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำทั้ง 3 สิ่งนี้ได้ วันนี้จึงอยากจะชวนทุกคนหันมาดูแลสุขภาพง่าย ๆ ด้วยการทาน อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับใครที่ชอบทานเผ็ดก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะเมนูที่เราจะนำเสนอไม่จืดชืดแน่นอน 

เปลี่ยนเมนูจัดจ้านให้เฮลตี้ 5 เมนู อาหารเพื่อสุขภาพ เอาใจคนชอบทานเผ็ด

เมื่อพูดถึงการรับประทานอาหารเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว เรามักจะเห็นว่า สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ หลาย ๆ เมนูนั้นมีการปรุงรสน้อยมาก จนทำให้รสชาติจืดชืดและไม่น่าทาน แต่จริง ๆ แล้ว อาหารเพื่อสุขภาพ คือ อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้คุณมากกว่าให้โทษ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า อาหารเพื่อสุขภาพ จะมีรสชาติอื่นไม่ได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในระดับที่พอดีและเหมาะสม แล้วทีนี้ อาหารเพื่อสุขภาพมีอะไรบ้าง คนชอบเผ็ดจะทานได้ไหม? วันนี้เรามี 5 เมนูเฮลตี้ที่คนชอบเผ็ดก็ทานได้ ไปดูกันเลย

1.  ต้มยำอกไก่น้ำใส

ต้มยำอกไก่น้ำใส

ถ้าพูดถึงเมนูต้มยำแล้ว นอกจากต้มยำหมู ต้มยำปลา หรือต้มยำทะเล ก็ยังมีต้มยำไก่ที่ได้รับความนิยม ใครอยากจะทำ อาหารไทยเพื่อสุขภาพ แนะนำเมนูนี้เลย สูตรนี้เราจะเน้นปรุงให้เป็น อาหารเพื่อสุขภาพ แบบคลีน ๆ แต่ก็ยังมีรสชาติแซ่บ ๆ ที่คนชอบเผ็ดทานได้ รับรองเลยว่าเป็น อาหารสุขภาพ ที่ไม่จืดแน่นอน แต่ถือว่าเป็น เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้รับโปรตีนไปเต็ม ๆ 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. อกไก่ 400 กรัม
  2. พริก 3 เม็ด
  3. ข่าหั่น 5 แว่น
  4. ตะไคร้ 1 ต้น
  5. ใบมะกรูด 5 ใบ
  6. มะนาว 1 ลูก
  7. เกลือชมพู 1 ช้อนชา
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  9. มะขามเปียก 20 กรัม
  10. น้ำเปล่า 1-2 ถ้วย 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกให้นำอกไก่มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำข่ามาหั่นแว่น ตามด้วยหั่นตะไคร้ มะนาว และพริก เตรียมไว้
  2. ตั้งหม้อแล้วต้มน้ำ ใส่พริก ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไป เมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้วให้ใส่อกไก่ที่หั่นไว้ตามลงไป
  3. ปรุงรสด้วยเกลือชมพู และน้ำปลา คนเล็กน้อย หากมีฟองก็ควรใช้ทัพพีตักออกจากหม้อ ใส่มะขามเปียก และบีบมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มความเปรี้ยว คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ 

2.  ยำอกไก่ฉีก

ยำอกไก่ฉีก

นอกจากเมนูต้มยำแซ่บ ๆ แล้ว เราก็ยังมีอีกหนึ่ง เมนูไก่ เพื่อเอาใจคนชอบทานเผ็ดด้วย บอกเลยว่าเมนูนี้คลีนแน่นอน เพราะใช้อกไก่ที่ลอกหนังออกแล้วในการปรุง นับเป็น อาหารคลีนง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำเองได้ จะได้รับโปรตีนจากอกไก่ ใครที่อยากทานอาหารแบบคลีน ๆ ไม่ใช้น้ำมันก็แนะนำเลย และสำหรับคนที่ชอบทานยำเป็นประจำก็สามารถเอาสูตร เมนูเพื่อสุขภาพ นี้ไปทำตามกันได้เลย 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. อกไก่ลอกหนัง 50 กรัม
  2. กะหล่ำปลี 50 กรัม
  3. แครอท 50 กรัม
  4. ขึ้นฉ่าย 50 กรัม
  5. มะเขือเทศ 1 ลูก
  6. พริกขี้หนู 3 เม็ด
  7. กระเทียม 3 กลีบ
  8. มะนาว 1/2 ลูก
  9. น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกนำอกไก่มาลอกหนังและทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นนำไปนึ่งหรืออบจนสุก และเมื่ออกไก่สุกแล้วให้นำมาฉีกเป็นชิ้น ๆ นำกะหล่ำปลี แครอท ขึ้นฉ่าย และมะเขือเทศมาหั่นเตรียมไว้
  2. เตรียมปรุงน้ำยำ โขลกพริกขี้หนูและกระเทียมพอละเอียด จากนั้นตักใส่ในถ้วยผสม ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำต้มสุก
  3. ใส่ผักต่าง ๆ ที่หั่นไว้ลงไปผสมกับน้ำยำ ตามด้วยอกไก่ฉีกที่เตรียมไว้ จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จ 

3.  คั่วกลิ้งหมู อาหารเพื่อสุขภาพ

คั่วกลิ้งหมู

หากใครที่ชอบทานอาหารใต้รสเผ็ดก็สามารถนำสูตรนี้ไปทำทานกันได้เลย โดยเราจะเปลี่ยนจากอาหารรสเผ็ดให้เป็น อาหารคลีน ที่ทุกคนทานได้ เรียกว่าเป็นการพลิกแพลงเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกทาน สำหรับใครที่กำลังดูแลสุขภาพแต่อยากทาน เมนูหมู ก็สามารถทำคั่วกลิ้งหมูสูตรนี้ได้ นับเป็นอีกหนึ่ง อาหารเพื่อสุขภาพ ที่มีกลิ่นเครื่องเทศหอมมาก ๆ แถมทานแล้วจะได้รับสาร อาหารครบ 5 หมู่ อีกด้วย 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. เนื้อหัวไหล่หมูบด/สับ 300 กรัม
  2. พริกแกงคั่วกลิ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกซอย (ตามความชอบ)
  4. ใบมะกรูดซอย (ตามความชอบ)
  5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมันคาโนล่า 1 ช้อนชา
  7. น้ำเปล่า 1 แก้ว 

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลางแล้วใส่น้ำมันคาโนล่าลงไปเล็กน้อย ตามด้วยพริกแกงคั่วกลิ้ง ผัดจนพริกแกงมีกลิ่นหอม 
  2. ใส่เนื้อหมูบดลงไป ผัดให้เข้ากันกับพริกแกงจนหมูสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ตามด้วยพริกและใบมะกรูดซอย คั่วจนส่วนผสมเข้ากันและมีกลิ่นหอม เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย 

4.  ลาบหมู

ลาบหมู

ลาบหมูสูตรนี้ขอเอาใจคนที่ทาน อาหารคีโต โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นอาหารอีสานที่ได้ทั้งความอร่อยและประโยชน์ในเวลาเดียวกัน ทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็ได้ หากใครอยากทานอาหารสุขภาพที่ใช้วัตถุดิบอย่างเนื้อหมู เมนูลาบก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะไม่ใช้น้ำมันในการปรุง สำหรับ ประโยชน์ของอาหาร เมนูนี้ก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเน้นกินให้อร่อย หรือ กินเพื่อสุขภาพ ก็สามารถแซ่บได้เช่นกัน 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. เนื้อหมูสับ 100 กรัม
  2. ต้นหอมซอย 30 กรัม
  3. หอมแดงซอย 30 กรัม
  4. ผักชีใบเลื่อยซอย 30 กรัม
  5. อัลมอนด์ 30 กรัม
  6. อิริทริทอล 2 ช้อนชา
  7. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำเปล่า 1 แก้ว 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกนำอัลมอนด์มาตำหรือปั่นให้ละเอียดเพื่อใช้ปรุงแทนข้าวคั่ว จากนั้นนำต้นหอม หอมแดง และผักชีใบเลื่อยมาซอย เตรียมไว้
  2. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่หมูสับลงไปคั่วให้เกือบสุก ปรุงรสด้วยอิริทริทอล พริกป่น และน้ำปลา ตามด้วยอัลมอนด์ป่น คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  3. ใส่ต้นหอมซอย หอมแดงซอย และผักชีใบเลื่อยซอยลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นปิดแก๊สและปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำมะนาว ถือเป็นอันเสร็จ 

5.  ผัดกะเพราปลาทูน่า

ผัดกะเพราปลาทูน่า

สายคลีนที่เน้นทาน เมนูปลา โดยเฉพาะ เราขอแนะนำเมนูนี้เลย ผัดกะเพราปลาทูน่า หลายคนอาจยังไม่เคยทาน แต่จะบอกว่าการนำปลาทูน่ามาทำอาหารนั้นได้รสชาติอร่อยไม่แพ้กันเลย แถมยังได้รับโปรตีนจากปลา และราคาก็ไม่แพงด้วย ถือเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ ที่เหมาะกับคนงบน้อยหรือต้องการประหยัดเงิน นอกจากนี้ปลายังถือเป็นหนึ่งใน อาหารที่ดีที่สุด สำหรับสายเฮลตี้ 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. ปลาทูน่าในน้ำแร่ 1 กระป๋อง
  2. ใบกะเพรา 30 กรัม
  3. พริก 5 เม็ด
  4. กระเทียม 3 กลีบ
  5. ซอสหอยนางรม (สูตรลดเกลือโซเดียม) 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซีอิ๊วขาว (สูตรลดเกลือโซเดียม) 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันมะกอก (เล็กน้อย) 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกนำพริกและกระเทียมมาตำ จากนั้นตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลางแล้วทาน้ำมันมะกอกลงไปบาง ๆ
  2. นำพริกกระเทียมที่ตำลงไปผัดในกระทะจนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เนื้อปลาทูน่าลงไป และผัดให้เข้ากัน
  3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และใส่ใบกะเพราลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อสุกแล้วปิดแก๊สและเตรียมตักใส่จานเสิร์ฟ 

บทสรุป

จริง ๆ แล้วการ ทำอาหารเพื่อสุขภาพ ทานเองนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราสามารถปรุงรสได้ด้วยตัวเอง และจะคำนวณได้ด้วยว่าอาหารที่เราทานนั้นมีกี่แคล ในปัจจุบัน เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ กำลังมาแรง บางคนที่ชอบทานเผ็ดก็อาจหา วิธีทำอาหารเพื่อสุขภาพ ให้เหมาะกับตนเอง เราแนะนำให้ใส่พริกในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป หรือถ้าอยากจะเอาให้ชัวร์ก็ควรดูที่ปริมาณแคลอรี่ของ อาหารเพื่อสุขภาพ นั้น ๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด อาจไม่ต้องเน้นปรุงจืดมาก แต่ควรดูที่ความเหมาะสมเป็นหลัก