คัพเค้ก CUPCAKE คือ เบเกอรี่เค้กชิ้นเล็กบรรจุในถ้วยขนาดเล็ก ตกแต่งหน้าขนมได้หลากหลาย รังสรรค์ได้ตามจินตนาการของผู้ทำ รสชาติหวานอร่อยไม่แพ้เค้กชิ้นใหญ่ เหมาะกับการนำมารับประทานคู่กับชา กาแฟ หรือนม จึงเป็นที่นิยมมากของเด็กเล็ก วัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงาน ไม่ว่าจะวัยไหนเมื่อได้รับประทานคัพเค้กแล้ว ก็เป็นอันต้องติดใจกันทุกราย
แนะนำเมนู คัพเค้ก ขนมหวานที่เป็นได้ทั้งของว่าง และของขวัญ
เมนู คัพเค้ก จะถูกนำมารับประทานเป็น ของว่างทานเล่น ระหว่างวันแล้วยังถูกนำมามอบให้แก่กันเป็นของขวัญในวันพิเศษ เช่น คัพเค้กวาเลนไทน์ , คัพเค้กวันเกิด ฯลฯ เนื่องจากมีหน้าตาที่น่ารัก น่ารับประทาน และด้วยความที่เป็นขนมชิ้นเล็ก ตกแต่งแต่ละชิ้นแตกต่างกัน จึงดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ไม่น้อย ในบทความนี้ AVENUEB จึงได้นำ ประวัติคัพเค้ก พร้อม สูตรวิธีทำคัพเค้ก มาแนะนำให้ได้รู้จัก
ประวัติของคัพเค้ก
คัพเค้ก เมนูเบเกอรี่ นี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอ้างอิงจากหนังสือการทำอาหารที่มีชื่อว่า ELIZA LESLIE’S RECEIPTS ว่ากันว่า สูตรคัพเค้ก ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้ประหยัดเวลาในการทำขนม จึงได้มีสูตรขนมเค้กชิ้นเล็กๆ บรรจุในรูปแบบถ้วยขึ้นมา
วิวัฒนาการของ ชื่อขนมคัพเค้ก
ในอดีตนั้น คัพเค้ก ไม่ได้มีชื่อว่า CUPCAKE เหมือนอย่างในปัจจุบัน แต่กลับถูกเรียกกันว่า NUMBER CAKE , 1234 CAKES , QUARTER CAKE ชื่อเหล่านี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้จำสูตรวิธีทำขนมได้โดยง่าย ยกตัวอย่าง เนย 1 ถ้วย น้ำตาล 2 ถ้วย แป้ง 3 ถ้วย ไข่ไก่ 4 ฟอง ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อใส่ส่วนผสมเหล่านี้เสร็จแล้วก็สามารถนำไปอบได้ทันที
วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ คัพเค้ก เนื้อสปันจ์วานิลลา
แม้ว่าในปัจจุบัน ขนมคัพเค้ก จะถูกปรับแต่งดัดแปลงให้มีความหลากหลาย แต่รสชาติของคัพเค้ก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น คัพเค้กวานิลลา ที่ถูกจัดให้เป็น ขนมขายดี ของหลายๆร้าน เนื่องจากรสชาติมีความคลาสสิก เข้ากันได้ดีกับครีมเนื้อนุ่มฟู ผสานกับวัตถุดิบตกแต่งหลากหลาย
ในบทความนี้เราจึงได้นำ สูตรคัพเค้กวานิลลา เนื้อสปันจ์นุ่มๆ มาแชร์ต่อให้ทุกคนได้ลองทำตามกันแบบง่ายๆ แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน โดยสูตรนี้เราจะขอแบ่งวัตถุดิบออกเป็นสองส่วน ดังนี้
วัตถุดิบทำ เค้กสปันจ์วานิลลา
- ไข่ไก่ เบอร์2 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 75 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- น้ำเปล่า หรือนม 40 มิลลิลิตร
- สารแต่งกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 75 กรัม
- ผงฟู 1/2 + 1/4 ช้อนชา
- เอสพี 11 กรัม
- น้ำมันพืช 57 กรัม
วัตถุดิบทำ ครีมแต่งหน้าเค้ก
- วิปปิ้งครีม 300 กรัม
- สีผสมอาหาร ตามชอบ
- แยมสตอร์เบอรี่ หรือรสชาติอื่นตามชอบ
- วัตถุดิบแต่งหน้าเค้ก เช่น เม็ดน้ำตาล เม็ดสี ช็อกโกแลต ฯลฯ
ขั้นตอนวิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกใส่ไข่ไก่ลงไปในโถผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำเปล่า สารแต่งกลิ่นวานิลลา จากนั้นร่อนแป้งเค้ก และผงฟูใส่ลงไป เมื่อใส่ส่วนผสมลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักไว้
- เปิดเครื่องผสมอาหารตีส่วนผสมด้วยสปีดต่ำสุดจนเข้ากันดี แล้วปาดเอสพีใส่ที่หัวตะกร้อ ตีต่อด้วยสปีดสูงสุดเป็นเวลา 5 นาที หรือจนกว่าส่วนผสมจะฟูขาว
- ลดสปีดลงเป็นสปีดกลาง และทยอยใส่น้ำมันรำข้าวลงไปในระหว่างตี และตีต่อจนกว่าจะไม่เหลือคราบน้ำมันแล้วใช้ไม้พายช่วยปาดส่วนผสมที่ติดอยู่ขอบโถให้เข้ากัน ก่อนจะเปิดเครื่องตีต่อด้วยสปีดสูงสุด 3 นาที เช็คเนื้อแป้งแล้วตีต่อด้วยสปีดต่ำเพื่อไล่ฟองอากาศ
- เตรียมพิมพ์คัพเค้กรองด้วยถาดรองอบ จากนั้นนำเนื้อแป้งที่เตรียมไว้ใส่ถุงบีบ บีบลงไปประมาณ ¾ ของถ้วยตี จนครบทุกถ้วย (สูตรนี้ใช้ประมาณ 16 ถ้วย)
- ก่อนนำขนมเข้าอบให้กระแทกถาดรองอบกับพื้นเพื่อไล่ฟองอากาศ 3 ครั้ง และนำเข้าอบด้วยอุณหภูมิ 170 องศา ไฟบนล่าง เปิดพัดลม เป็นเวลา 20 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุกดี
- เมื่อขนมของเราสุกดีแล้วให้นำออกจากเตาอบ มาคว่ำหน้าลงที่ตะแกรงเพื่อพักไว้ 15 นาที และกลับด้านพักไว้จนเย็นสนิท
- ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำครีมแต่งหน้าเค้ก เริ่มจากการใส่วิปปิ้งครีม และสารแต่งกลิ่นวานิลลาลงไป เปิดเครื่องตีด้วยสปีดสูงสุด 3 นาที จนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแข็งแล้วตีต่อด้วยสปีดต่ำสุด เพื่อให้เนื้อเนียนละเอียดยิ่งขึ้น เสร็จแล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็น
- เตรียมแยมใส่ถุงบีบ แล้วบีบลงไปในเนื้อเค้กเพื่อเป็นไส้ขนม ก่อนจะนำวิปปิ้งครีมที่เตรียมไว้มาปาดให้ทั่ว และบีบครีม เพิ่มวัตถุดิบตกแต่งหน้าเค้กเพิ่มเติมได้ตามชอบ
บทสรุป
คัพเค้กที่ดีมักจะมีกลิ่นหอมของวัตถุดิบส่วนผสม เนื้อแน่น แต่ไม่แห้ง สัมผัสนุ่มลิ้นกำลังดี และคัพเค้ก นอกจากจะเป็น เมนูเค้ก ที่สามารถรังสรรค์ตกแต่งหน้าตาได้หลายแบบแล้ว เนื้อเค้กที่ถูกนำมาทำเป็น เบเกอรี่คัพเค้ก ก็หลากหลายไม่แพ้กัน เช่น บัตเตอร์เค้ก , ชิฟฟ่อนเค้ก , สปันจ์เค้ก ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบก็ล้วนมีเอกลักษณ์เนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน
