6 เมนู อาหารอีสาน สูตรเด็ด รสแซ่บนัวถึงใจ ทำง่ายไม่ง้อร้านดัง

อาหารอีสาน หรืออาหารประจำท้องถิ่นของชาวอีสาน มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ การปรุงรสเค็มจากน้ำปลาร้าในหลายเมนู ทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วได้รับความนัวเข้มข้นด้วย นิยมนำมารับประทานพร้อมกับข้าวเหนียว และด้วยลักษณะทางพื้นที่ของภาคอีสานเป็นที่ราบสูง ในบางพื้นที่จึงเกิดความแห้งแล้ง ชาวอีสานจึงมีการถนอมอาหารเกิดขึ้น และใช้เนื้อสัตว์ที่หาได้ง่ายทั่วไปตามฤดูกาล

มัดรวมสูตร อาหารอีสาน ที่อร่อยจนได้รับความนิยมทั่วทุกภาค

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า นอกจากเมนูเด็ดเมนูดังอย่าง ส้มตำ ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งประเทศแล้ว อาหารอีสาน ยังมีดีกว่าที่คิด เราจึงได้นำ เมนูอาหารอีสาน มาลิสต์ไว้ให้ได้ทำความรู้จัก และลองทำตามกันแบบง่ายๆ ขอรับรองเลยว่าแต่ละเมนูนั้นเด็ด แซ่บ โดนใจอย่างแน่นอน ส่วนจะมีเมนูใดบ้างนั้น ไปตามอ่าน https://avenueb-pgh.com/ กันได้เลย

1.  แกงหน่อไม้ อาหารอีสาน สุดแซ่บ

มาเริ่มกันที่ อาหารอีสาน เมนูแรกที่ต้องเรียกว่าเป็น อาหารพื้นบ้าน ยอดนิยมสูงสุด มีการทำรับประทานกันทั้งในภาคอีสาน และภาคเหนือของไทย มีรสชาติอร่อยเข้มข้น หอมหวนชวนรับประทาน และยังเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยหน่อไม้ที่นิยมนำมาแกงก็คือ หน่อไม้บง หน่อไม้ตง หน่อไม้ไล่ และหน่อไม้ไผ่สีสุก บางสูตรได้มีการใส่เนื้อสัตว์ลงไปด้วย เช่น กระดูกหมู เนื้อปลา ฯลฯ

วัตถุดิบ ทำแกงหน่อไม้

1. หน่อไม้ต้มสุก หั่นชิ้น 2 หน่อ 
2. หอมแดงหั่นชิ้น 6 หัว 
3. พริกจินดาแดง 10 เม็ด 
4. ข้าวเบือ 2 ช้อนโต๊ะ
5. เห็ดฟางหั่นชิ้น 1 ถ้วย 
6. ชะอม 1 ถ้วย
7. ฟักทองหั่นชิ้น 1 ถ้วย 
8. ตะไคร้บุบ หั่นชิ้น 3 ต้น
9. ใบแมงลัก 1 ถ้วย 
10. น้ำปลาร้า ปริมาณตามชอบ 
11. น้ำย่านางคั้น 1ถ้วย

ขั้นตอนวิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกในการทำ แกงหน่อไม้ใบย่านาง นำข้าวเบือ หอมแดง และพริกแดงจินดาไปโขลกให้ละเอียด ตามด้วยการตั้งหม้อใส่น้ำใบย่านางลงไป เปิดเตารอให้เดือดแล้วใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไป เมื่อเดือดแล้วใส่ตะไคร้ หน่อไม้ และฟักทองลงไปต้มต่อ 
2. หลังจากต้มจนฟักทองสุกได้ที่แล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า คนให้เข้ากันแล้วใส่เห็ดฟางลงไป รอให้เห็ดสุกแล้วใส่ชะอม และใบแมงลักลงไปเพิ่มกลิ่นหอม ต้มต่อสักครู่แล้วตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลย

2.  แกงอ่อม อาหารพื้นบ้าน ทำง่าย

แกงอ่อม เมนูอาหารแซ่บๆ ประจำร้านลาบก้อยของชาวอีสาน มีเครื่องปรุงที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ผักชีลาว ใบแมงลัก และต้นหอม นำมาใส่เนื้อสัตว์ได้หลากหลาย เช่น อ่อมเนื้อวัว , อ่อมไก่ , อ่อมหอยขม , อ่อมปลา , อ่อมเขียด ฯลฯ แกงอ่อมมีรสชาติเค็มนำ เผ็ด และมีกลิ่นหอมของสมุนไพรที่ใส่ลงไป ขั้นตอนวิธีการทำ อาหารอีสานง่ายๆ มีเพียงไม่กี่ขั้นตอน

วัตถุดิบทำ แกงอ่อมหมู

1. พริกแดงจินดา 20 เม็ด
2. หอมแดง 6 หัว
3. ตะไคร้ซอย 4 ต้น
4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
5. เนื้อหมูส่วนสันคอหั่นชิ้นบาง 500 กรัม
6. น้ำเปล่า 1000 มิลลิลิตร
7. น้ำปลาร้า 4 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
9. ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
10. มะเขือเปราะหั่นชิ้นแช่น้ำ 15 ลูก 
11. บวบหอมหั่นชิ้น 1 ลูก
12. ต้นหอมหั่นท่อน 10 ต้น 
13. ใบมะกรูดฉีก 10 ใบ
14. ใบแมงลัก 1 ถ้วย
15. ผักชีลาวหั่นท่อน 10 ต้น

ขั้นตอนวิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกในการทำ แกงอ่อมหมู เริ่มจากการนำพริกแดงจินดา และเกลือมาโขลกให้ละเอียด ตามด้วยตะไคร้ และหอมแดง โขลกต่อให้พอหยาบ
2. ตั้งกระทะเปิดเตาด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ทำเครื่องแกงที่โขลกไว้ในขั้นตอนแรกลงไปผัดให้หอม และใส่หมูลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันสุก จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไป ปรับไฟเป็นไฟกลาง รอให้น้ำเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า คนให้เข้ากันแล้วใส่มะเขือเปราะลงไปต้มให้สุก 
3. เมื่อมะเขือเริ่มสุกแล้วให้ใส่บวบลงไป ชิมรสแล้วปรุงรสใส่น้ำปลาเพิ่มได้ตามชอบ คนให้เข้ากัน และต้มต่อให้บวบสุก จากนั้นใส่ต้นหอม และใบมะกรูดฉีกลงไปเพิ่มความหอม รอให้น้ำแกงเดือดแล้วใส่ข้าวคั่ว ใบแมงลัก และผักชีลาวลงไปคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วปิดเตา นำไปจัดเสิร์ฟรับประทานได้เลย

3.  ต้มแซ่บ กระดูกอ่อน

ต้มแซ่บกระดูกอ่อน เป็นอาหารประเภท ต้มยำ รสแซ่บของชาวอีสาน เนื้อกระดูกอ่อนหมูที่ถูกเคี่ยวจนนุ่ม ผสานกับรสชาติที่จัดจ้านถึงใจ และกลิ่นหอมของสมุนไพรหลากชนิด รับประทานได้เข้ากันทั้งกับข้าวสวย และข้าวเหนียว จึงได้รับความนิยมไปทั่วทั้งประเทศไทย หากใครไม่ชอบรับประทานเนื้อกระดูกอ่อนก็สามารถนำเนื้อสัตว์อื่นๆมาทำเมนูนี้ได้

วัตถุดิบทำ ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

1. กระดูกอ่อนหมู หั่นชิ้น 1,200 กรัม
2. น้ำเปล่า 2,000 มิลลิลิตร
3. เกลือ 2/3 ช้อนโต๊ะ
4. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
5. หอมแดงบุบ 150 กรัม
6. กระเทียมบุบ 50 กรัม
7. ข่า หั่นแว่น 150 กรัม
8. ตะไคร้ หั่นแว่น 50 กรัม
9. ใบมะกรูดฉีก 2 กรัม
10. มะเขือเทศ หั่นชิ้น 100 กรัม
11. พริกขี้หนูสวน 30 กรัม
12. ผักชีฝรั่ง ซอย 20 กรัม
13. ผักชีไทย ซอย 20 กรัม
14. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
15. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
16. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนวิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกในการทำ ต้มแซ่บกระดูกอ่อน เริ่มจากการตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่หอมแดง และกระเทียมบุบลงไป ตามด้วยเนื้อกระดูกอ่อนหมู ปรุงรสด้วยเกลือ เพิ่มความหอมด้วยพริกไทย ต้มต่อให้กระดูกอ่อนหมูเปื่อยนุ่ม ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งชั่วโมง ตามชอบ (หากมีฟองไขมันลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ให้ใช้ช้อนตักออกฟองทั้งหมด เพื่อให้น้ำต้มของเราใสน่ารับประทาน)
2. ระหว่างรอให้นำพริกขี้หนูสวนมาโขลกให้พอหยาบ เสร็จแล้วใส่เครื่องต้มยำลงไปในหม้อ (ข่า ตะไคร้ มะเขือเทศ ใบมะกรูด) คนให้เข้ากัน ปรับเป็นไฟแรงแล้วรอให้น้ำเดือด เสร็จแล้วปิดเตาได้เลย
3. ชิมรสชาติแล้วใส่ผักชีฝรั่ง ผักชีไทยที่เตรียมไว้ ปรุงรสเพิ่มด้วย พริก น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย เสร็จแล้วคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลย

4.  ลาบ หมู อาหารอีสาน ชื่อดัง เป็นได้ทั้งกับข้าว และกับแกล้ม

เมนูประจำร้านลาบ ที่หากใครเข้าไปแล้วต้องไม่พลาดที่จะสั่งมารับประทาน และยังเป็นเมนู อาหารอีสาน ที่ได้รับความนิยมในงานบุญ งานมงคล หรือเทศกาลต่างๆในภาคอีสาน ต้นกำเนิดของลาบ เชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลมาจากเวียงจันทน์ ทำมาจากเนื้อสับละเอียด และเครื่องใน หนังซอยบาง ในปัจจุบันมีทั้งลาบสุก และลาบดิบ ที่สำคัญเมนูนี้ยังอร่อยจนถูกยกให้เป็น อาหารประจำชาติ ของประเทศลาวอีกด้วย

วัตถุดิบ ทำลาบหมู

1. หมูบด 300 กรัม
2. หนังหมู 200 กรัม
3. ตับหมู 100 กรัม
4. หอมแดง ซอย 50 กรัม
5. ต้นหอม ซอย ปริมาณตามชอบ
6. ผักชี ซอย ปริมาณตามชอบ
7. ข้าวคั่ว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. พริกป่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร

ขั้นตอนวิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกในการทำ ลาบหมู ขั้นตอนแรกนำหมูบด และน้ำเปล่าลงไปในหม้อ และเปิดเตาด้วยไฟกลาง ยีหมูสับกับน้ำให้เข้ากันในระหว่างที่น้ำยังไม่เดือด (วิธีนี้จะช่วยให้หมูไม่จับตัวเป็นก้อน) ตามด้วยการใส่หนังหมู และตับหมูลงไปรวนให้สุกดี ใส่หอมแดงลงไปคนให้เข้ากันแล้วปิดเตาได้ทันที
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสแล้วปรุงเพิ่มได้ตามชอบ เสร็จแล้วใส่ต้นหอม และผักชีลงไปคนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสิ้น นำไปรับประทานคู่กับผักเครื่องเคียงได้เลย

5.  ก้อย เนื้อ 

ใครชอบรับประทานเนื้อ หรือเป็น สายเนื้อ ต้องไม่พลาดกับ เมนูอาหารอีสาน เมนูนี้ เพราะทำมาจากเนื้อวัวดิบ และเลือดสด มีความคล้ายคลึงกับลาบ แตกต่างกันตรงที่ไม่สับเนื้อจนละเอียด แต่จะซอยเป็นชิ้นบางๆ ก่อนจะนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสแซ่บ รับประทานพร้อมข้าวเหนียว และผักสดหลากชนิด 

วัตถุดิบ ทำก้อยเนื้อ

1. เนื้อวัวสับ ตับหวาน และผ้าขี้ริ้ว หรือสไบนางหั่นชิ้นบาง 500 กรัม 
2. เลือดวัว ปริมาณตามชอบ
3. ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
4. พริกแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
5. ดีวัว 2 ช้อนโต๊ะ 
6. น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 
7. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 
8. ผงปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
9. ต้นหอมซอย 5 ต้น
10. ผักชีซอย 5 ต้น 

ขั้นตอนวิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกในการทำ ก้อยเนื้อ ให้นำเนื้อวัว ตับหวาน และสไบนางใส่ลงไปในชามผสม ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำปลา ดีวัว ผงปรุงรส และข้าวคั่ว คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน เมื่อได้รสชาติตามที่ชอบแล้วให้ใส่เลือดลงไปคนอีกครั้ง 
2. โรยหน้าก้อยด้วย ต้นหอม และผักชีซอย คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสิ้น นำไปรับประทานได้เลย

6.  ซุปหน่อไม้

มาถึงเมนูสุดท้ายของเราในบทความนี้ ซุปหน่อไม้ เมนูเพื่อสุขภาพ ที่นอกจากทานเพื่อความอร่อยแล้วยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในหน่อไม้นั้นมีใยอาหารมากมาย อีกทั้งยังมีคาร์โบเดรต โปรตีน และไขมัน รสชาติเผ็ดเค็ม นัวน้ำปลาร้า และปราศจากความขม เนื่องจากใช้ภูมิปัญญาโบราณ นำหน่อไม้ไปต้มให้สุกจนหมดความขม ก่อนนำมาประกอบอาหารนั่นเอง

วัตถุดิบ ทำซุปหน่อไม้

1. หน่อไม้ต้ม ซอย 150 กรัม
2. น้ำใบย่านาง 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
5. หอมแดง ซอย 20 กรัม
6. ใบขิง ซอย 3 ใบ
7. ผักชีฝรั่ง ซอย 1 ต้น
8. ผักชีไทย ซอย 1 ต้น
9. ใบแมงลัก ซอย 1 ต้น
10. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
12. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
13. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนวิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกในการทำ ซุปหน่อไม้ สด สูตรอีสานแท้ๆ เริ่มจากการใส่หน่อไม้ต้มสุกลงไปในหม้อ ตามด้วยการใส่น้ำใบย่านาง น้ำปลาร้า และน้ำเปล่าลงไป เปิดเตาคนให้เข้ากัน รอให้พอเดือดแล้วปิดเตาพักไว้ให้เย็น
2. ใส่หอมแดง ใบขิง ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง และใบแมงลักลงไปในส่วนผสมขั้นตอนแรก คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

บทสรุป

อาหารอีสาน ถือเป็น อาหารไทยทำง่าย บางเมนูใช้วัตถุดิบมาก แต่ขั้นตอนนั้นมีเพียงสองขั้นตอน จึงใช้เวลาในการทำไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำ อาหารจานหลัก หรือ กับข้าว ในวันที่เร่งรีบ นอกจากทำแล้วจะได้ทานอาหารอร่อยๆแล้ว ยังได้คุณค่าทางสารอาหารแบบเต็มเปี่ยม เพราะอาหารอีสานส่วนใหญ่นิยมทำจากเนื้อสัตว์ และนำมารับประทานกับผักเครื่องเคียง