สโคน SCONE ขนมปังอังกฤษ เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ทำกินเองได้

สโคน
สารบัญบทความ

ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่โลกของ เบเกอรี่ กับเมนูขนมหวานสไตล์อังกฤษ สโคน หรือ สคอน SCONE คือ ขนมอบแบบควิกเบรด (QUICK BREAD) ตัวขนมทำมาจากแป้งสาลี ไข่ เนย น้ำตาล และนมสด มีลักษณะรูปร่างเป็นก้อนกลม ในบางสูตรจะมีรูปร่างสามเหลี่ยม เนื้อสัมผัสคล้ายขนมปังกึ่งบิสกิตกรอบนอกนุ่มใน รสชาติไม่หวานมากนัก นิยมนำมารับประทานพร้อมกับชาร้อนๆ กาแฟ ครีมคลอตเต็ด และแยมรสชาติต่างๆ ชาวฝรั่งเศสจะทานเป็นอาหารเช้า และทานคู่กับชาในยามบ่าย แต่ด้วยหน้าตาที่ไม่น่าสนใจ มองภายนอกอาจดูแห้ง ไร้รสชาติ แตกต่างจากเบเกอรี่ชิ้นอื่นที่วางขายทั่วไปในตู้โชว์ หากใครไม่เคยรู้จักเมนูนี้มาก่อน อาจมองข้ามไปเลย ซึ่งหากใครเคยคิดแบบนั้นถือว่าพลาดมาก เมื่ออ่านบทความนี้จบ คุณจะสนใจเจ้าเบเกอรี่ชิ้นนี้มากขึ้นทันที

แนะนำ สโคน เมนูเบเกอรี่ที่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้คิดค้น

สโคนประวัติ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้น แต่มีข้อสันนิษฐานถึงที่มาของขนม สโคน อยู่หลากหลายเรื่องราว เช่น มีต้นกำเนิดขึ้นมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ในประเทศสก็อตแลนด์ แต่เดิมนั้นใช้ข้าวโอ๊ตแทนแป้งสาลี รูปร่างแตกต่างจากในปัจจุบันที่เรารับประทานกัน คือ มีลักษณะกลมแบน ขนาดใหญ่เท่าจานขนาดกลางเพื่อให้สามารถตัดแบ่งได้ง่ายยิ่งขึ้น ปรุงให้สุกด้วยกระทะก้นแบน และถูกนำมาหั่นเป็นชิ้นรูปทรง สโคนสามเหลี่ยม ก่อนจัดเสิร์ฟคู่กับน้ำชา

อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ขนมสโคน ก็คือ ในช่วงปี ค.ศ. 1513 ชาวสก็อตแลนด์ได้อบขนมที่มีรูปร่างคล้ายกับหินของกษัตริย์ที่ได้รับจากการปราบดาภิเษก เรียกกันว่า หินแห่งชะตา (STONE OF DESTINY) หรือหินราชาภิเษก จึงได้ตั้งชื่อขนมเมนูนี้ตามกษัตริย์ของตน และเมนูนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนมที่ยังไม่ทราบแน่ชัด หากใครรู้เพิ่มเติมสามารถแนะนำ https://avenueb-pgh.com/ บอกต่อกันเข้ามาได้

สโคน
สโคน

เมนูเบเกอรี่ ทานคู่น้ำชาในยามบ่ายของชาวอังกฤษ

อย่างที่บอกไปแล้วในข้างต้นว่า สโคน เป็น เมนูขนมหวาน ที่ได้รับความนิยมรับประทานคู่กับชาในยามบ่าย แต่รู้หรือไม่คะว่าเรื่องนี้ถือเป็น วัฒนธรรมอังกฤษ มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคที่ชาวอังกฤษจะรับประทานเพียงอาหารมื้อเช้ากับมื้อค่ำเท่านั้น ต่อมาจึงได้มีการเสิร์ฟสโคนในโต๊ะน้ำยาในช่วงบ่าย เพื่อรองท้อง ประกอบด้วย น้ำชาร้อนๆ ขนมปัง และเค้ก รวมถึงสโคนในบางมื้อ ในทุกช่วงเวลา 4 โมง เลดี้แอนนา หรือเจ้าหญิงแอนนา มาเรีย แห่ง DUCHESS OF BEDFORD เป็นผู้สั่งให้คนรับใช้จัดเสิร์ฟชุดชาพร้อมขนมปังในยามเย็นด้วย และได้สั่งให้เสิร์ฟสโคนเป็น ของว่างทานเล่น ของทุกวัน และได้ชวนเหล่าเลดี้ชั้นสูงมาร่วมรับประทานด้วย ทำให้เกิดธรรมเนียม AFTERNOON TEA TIME และได้มีการปฏิบัติตามกันเรื่อยมา

สโคน หรือ สคอน ชื่อไหนเป็นชื่อที่ถูกต้องกันนะ ?

เมื่อได้ยินชื่อของขนม สโคน หรือ สคอน นั้นก็เกิดความแปลกใจว่าทำไมจึงเรียกชื่อเมนูเดียวกัน ผลการวิจัยจากษริษัทวิจัยการตลาดชื่อดังของอังกฤษ ได้ทำโพลสำรวจขึ้นมา และเปิดเผยว่าเจ้าของภาษานิยมเรียกว่า สคอน มากกว่าอยู่ที่ 51% ส่วนผู้ที่เรียกว่าสโคนนั้นก็มีมากถึง 41% แต่ทั้งนี้นั้นแตกต่างกันเพียงการออกเสียงเท่านั้น เมนูนี้ยังคงเป็นเมนูเดียวกัน และถือว่าถูกต้องทั้งสองชื่อ ดังนั้น หากจะเรียกด้วยชื่อ เบเกอรี่อร่อยๆ เมนูนี้ด้วยชื่อใด ก็ไม่ถือว่าผิดนะคะ 

สโคน
สโคน

การรับประทาน ขนมสโคน อย่างถูกวิธี

เนื่องจากเบเกอรี่เมนูนี้มีรสชาติที่ไม่หวานมากนัก จึงอาจไม่ถูกปากคนที่ชอบรับประทาน ขนมหวาน แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการรังสรรค์สโคนให้มีหลากหลายรสชาติ เช่น สโคนชาเขียว , สโคนช็อกโกแลต , สโคนผลไม้ ฯลฯ การรับประทานสโคน รสชาติ ORIGINAL ให้อร่อยนั้นต้องรู้จักวิธีการรับประทานที่ถูกต้อง โดยนำมารับประทานคู่กับครีม และแยม เริ่มจากการนำสโคนมาตัดแบ่งครึ่งแล้วนำไปอุ่น จากนั้นจึงทาครีมลงไปบนตัวขนมสโคน ตามด้วยการทาแยมลงไป หากใครจะใส่ท็อปปิ้งอย่างช็อกโกแลต หรือผลไม้เข้าไปเสริมรสชาติก็ได้นะคะ แต่หากใครไม่มีครีมก็สามารถใช้วิปปิ้งครีมแทนได้ และที่สำคัญเนื้อของขนมค่อนข้างแห้ง จึงควรรับประทานคู่กับน้ำชาร้อนๆ กาแฟ หรือ เมนูเครื่องดื่ม อื่นๆ

สโคน
สโคน

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ สโคน ทำง่าย ต้นทุนถูก

สโคนที่มีขายตามคาเฟ่ ร้านขนมหวาน หรือเบเกอรี่ มักจะมีหลากหลายสูตรที่อร่อยแตกต่างกันไป และได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย จึงสามารถหาทานได้ง่ายทั่วไป แต่ที่ดูเหมือนจะคล้ายกันก็คือ การตั้งราคาเบเกอรี่ที่ถือว่าสูงเอาเรื่อง หากจะทานบ่อยๆคงไม่ปลอดภัยกับเงินในกระเป๋า เราจึงได้นำ สูตรสโคนลูกเกด มาบอกต่อให้ได้ลองทำทานเองที่บ้านด้วยการใช้ ส่วนผสมสโคน อันน้อยนิด และยังสามารถทำตามได้ง่ายๆ ต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบถูกกว่าที่หลายคนคิด เหมาะจะนำมาทำทานเองในแต่ละมื้อของชากาแฟ หรือหากใครอยากหารายได้เสริม ก็สามารถนำสูตรนี้ไปทำสโคนขายได้เช่นกันค่ะ ดังนั้น อย่าพลาดที่จะลองทำ เบเกอรี่ทำง่าย เมนูนี้นะคะ

วัตถุดิบ

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. ผงฟู 6 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 40 กรัม
  4. สารแต่งกลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  5. เกลือ 1 หยิบมือ
  6. เนยจืดหั่นชิ้นเล็ก 60 กรัม
  7. นมสดรสจืด 130 มิลลิลิตร
  8. ลูกเกด 50 กรัม
  9. ไข่ สำหรับทาหน้าขนม 1 ฟอง
สโคน

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ขั้นตอนแรกในการทำ สโคนลูกเกด เริ่มจากการเตรียมชามผสม ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู น้ำตาลทราย สารแต่งกลิ่นวานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน (หากใครใช้สารแต่งกลิ่นแบบน้ำ แนะนำให้ใส่พร้อมนมนะคะ) จากนั้นใส่เนยจืดหั่นชิ้นลงไป และใช้มือนวดให้เนยสดเข้ากันได้ดีกับแป้ง ปรุงรสเพิ่มด้วยเกลือป่น และนมสดรสจืด ใช้ช้อนคนให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้งแล้วใส่ลูกเกดลงไปนวดพร้อมกันจนหมดฝุ่นแป้ง
  2. โรยผงแป้งนวลลงไปบนถาดรอง จากนั้นนำแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 วางลงไปนวดให้นุ่มเนียน รีดด้วยไม้นวดแป้งให้แป้งแผ่ออก มีความหนาประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นใช้ตัวกดกดลงไปให้ได้แป้งชิ้นกลม ขนาดพอดีคำ แป้งส่วนที่เหลือให้นำมาปั้นรวมกันเป็นก้อนกลม แล้วแผ่ออก กดด้วยตัวกดให้เป็นรูปวงกลมอีกครั้ง
  3. เตรียมถาดรองอบ รองด้วยกระดาษไข หรือกระดาษรองอบ ก่อนจะนำขนมก้อนกลมที่เตรียมไว้วางเรียงลงไปให้ห่างกันเล็กน้อย พักไว้ 20 นาที ให้แป้งเซทตัว ระหว่างนี้ให้ตอกไข่ใส่ถ้วยขนาดเล็ก ตีให้เข้ากันแล้วนำมาทาลงไปบนหน้าขนม
  4. นำขนมเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 210 องศา ไฟบนล่าง ไม่เปิดพัดลม เป็นเวลาประมาณ 15 นาที เมื่อขนมสุกแล้วนำออกมาพักไว้ให้พออุ่น ก่อนรับประทานคู่กับน้ำชา กาแฟ หรือแยมรสชาติต่างๆได้เลย
สโคน

บทสรุป

หากตั้งใจแล้ว การทำ สโคน ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิดใช่ไหมละคะ เพียงแค่ตัดสินใจเตรียมวัตถุดิบ และลงมือทำ ก็จะได้ ขนมอร่อยๆ มาทานคู่กับน้ำชาแล้ว แถมทำหนึ่งครั้งยังสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน หากเก็บไว้นอกตู้เย็นสามารถอยู่ได้นานถึง 5 วัน ในตู้เย็นช่องธรรมดาเก็บได้ 14 วัน และหากใครสามารถเก็บไว้ในช่องฟรีซได้ ขนมของเราก็จะคงรสชาติความอร่อยอยู่ได้นานถึง 2 เดือน เมื่อจะนำมารับประทานต้องอุ่นให้ร้อนก่อนนะคะ โดยสามารถนำไปอุ่นได้ทั้งกระทะ เตาอบ ไมโครเวฟ หรือหม้ออบลมร้อนได้เลย อีกทั้งหากใครมีหม้ออบลมร้อนก็สามารถใช้แทนเตาอบในการทำได้ แต่เนื้อสัมผัสของขนมจะแตกต่างกันเล็กน้อย