ลูกชุบ วิธีทำขนมไทย ผสานศิลปะ ออกแบบได้หลากหลายตามจินตนาการ

ลูกชุบ
สารบัญบทความ

สวัสดีค่ะเหล่าคนรัก ขนมหวาน ทุกคน ในบทความนี้จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเมนู ลูกชุบ ขนมไทยที่มีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของรูปร่างลักษณะที่สามารถรังสรรค์ได้หลากหลาย ปั้นขึ้นรูปได้ตามจินตนาการของผู้ทำ ถั่วเขียวบดวัตถุดิบหลักที่นำมาปั้นทำเป็นตัวขนมนั้นให้เนื้อสัมผัสนุ่มลิ้น แต่งเติมสีสันได้ตามชอบ

และเมื่อนำมาชุบวุ้นเคลือบตัวขนมเพิ่มความกรุบกรอบแล้ว ยังเพิ่มความสดใสเงางามให้กับ ขนมลูกชุบ อีกด้วย ทำให้ขนมบางชิ้นหลังจากทำเสร็จสิ้นแล้วมีความสมจริง สวยงาม น่ารับประทาน จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยในประเทศ และต่างชาติที่ได้มาเยี่ยมชม

ทำความรู้จักกับขนม ลูกชุบ ขนมไทยที่ถูกดัดแปลงมาจากขนมโปรตุเกส

ประวัติลูกชุบ นับว่ามีความน่าสนใจมาก หากใครสังเกตรูปลักษณ์ และสีสันจัดจ้านของขนมให้ดีจะรู้ และเห็นความแตกต่างกับขนมไทยทั่วไป แท้จริงแล้ว ลูกชุบ ไม่ใช่ ขนมไทยโบราณ สูตรดั้งเดิม แต่เป็นขนมที่ถูกดัดแปลงมาจาก ขนมโปรตุเกส ที่แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา

โดยผู้ที่นำมาเผยแพร่ก็คือ ท้าวทองกีบม้า ราชินีขนมไทย (มาดามดอนญา มาเรีย กิอูมาณ์ เดอ ปินา) แต่เดิมเมนูนี้มีชื่อว่า MARZIPAN หรือ MASSAPA’ES เป็นขนมประจำถิ่นของแคว้นอัลการ์อิ ทำมาจากส่วนผสมหลักคือ อัลมอนด์บด ซึ่งในประเทศไทยถือเป็นสิ่งที่หายาก จึงได้ใช้ถั่วเขียวกวนเป็นส่วนผสมหลักแทน 

ลูกชุบ

สูตรลูกชุบ ในสมัยโบราณ มีการวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง

มีแหล่งข้อมูลในบางตำราอ้างว่า สูตรลูกชุบโบราณ ไม่ได้ทำมาจากถั่วเขียวกวนเพียงอย่างที่เรารับประทานกันในปัจจุบัน หากแต่ทำมาจากเนื้อของเมล็ดแตงโม โดยการนำมากะเทาะทีละเมล็ด ก่อนจะนำมาป่นให้ละเอียดแล้วนำมากวน ปั้นเป็นรูปร่างขนาดพอดีคำ ในสมัยก่อนนิยมทำรับประทานกันในวัง และมอบให้เด็กในช่วงเทศกาลพิเศษ จนกระทั่งในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ สูตรลูกชุบชาววัง ในสมัยรัตนโกสินทร์ ผู้แต่ง ตำราแม่ครัวหัวป่าก์ (ท่านผู้หญิง เปลี่ยน ภาสกรวงศ์) ได้คิดค้นให้มีการ ปั้นลูกชุบ เป็นรูปผักผลไม้ต่างๆ ส่วนผู้ที่คิดค้นการแต่งเติมสีสันจากสีธรรมชาติลงไปในตัวขนม คือ หม่อมหลวงเติบ ชุมสาย ณ อยุธยา เช่น

  • สีแสด ทำมาจากมะละกอสุกบดละเอียดผสมถั่วกวน ใช้ปั้นเป็นผลมะเขือเทศ
  • สีเหลือง ทำมาจากฟักทองนึ่งบดละเอียดผสมถั่วเขียวกวน ใช้ปั้นเป็นผลมะปราง
  • สีเขียว ทำมาจากใบเตยหั่นละเอียดคั้นแต่น้ำผสมถั่วเขียวกวน ใช้ปั้นเป็นชมพู่เขียว หรือใบไม้

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราขอยกตัวอย่างมาบอกต่อเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายสีที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติล้วนๆ นอกจาก สีธรรมชาติ ที่ใช้ผสมอาหารเหล่านี้ จะดีต่อสุขภาพ ปราศจากสารเคมี และทำให้ขนมของเรามีสีสันที่สวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัวของแต่ละสีจากวัตถุดิบที่เลือกใช้ด้วย 

ลูกชุบ

ลูกชุบแฟนซี ทำขายได้ราคาสูง เพียงมีความคิดสร้างสรรค์

ปัจจุบัน ลูกชุบ ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงรูปร่างผัก หรือผลไม้เพียงเท่านั้น เนื่องจากมีการประยุกต์ สูตรขนมไทย ให้มีความหลากหลายมากกว่าในอดีต แม้ว่าจะเป็น ขนมไทยทำง่าย ที่เราคิดว่าใครๆก็สามารถทำรับประทานเองได้ทั้งนั้น แต่หากใครต้องการ ทำลูกชุบขาย ขอบอกเลยว่าไม่ได้อาศัยเพียงความอร่อยเพียงเท่านั้น เมนูนี้จะเป็น ขนมขายดี หรือขายไม่ดี มูลค่าของขนมไม่สามารถวัดได้ที่รสชาติ แต่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ บวกกับฝีไม้ลายมือในการคิดค้นรูปร่างลักษณะให้มีความแตกต่าง โดดเด่นกว่าลูกชุบทั่วไปตามท้องตลาด และต้องมีความสมจริง เช่น ลูกชุบน้ำพริกกะปิ ลูกชุบแฟนซี ลูกชุบอาหาร ลูกชุบรูปสัตว์ เป็นต้น พร้อมบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่สะอาดสวยงาม ซึ่งหากใช้กลยุทธ์เหล่านี้ในการสร้างความแตกต่าง เพื่อดึงดูดใจลูกค้า รับรองได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการ เพิ่มมูลค่าขนม สร้างรายได้มหาศาลได้เลย

ลูกชุบ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ ลูกชุบ สูตร ผิวเงาใส เนื้อเนียนนุ่ม

หลังจากทำความรู้จักกับเมนู ลูกชุบ กันมาพอสมควรแล้ว ก็มาถึงจุดที่หลายคนรอคอยกับ สูตรทำลูกชุบ เมนูนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดทำขนม เพราะวัตถุดิบ ทำลูกชุบ สามารถหาได้ง่าย ขั้นตอนไม่วุ่นวายเหมือนอย่างขนมไทยเมนูอื่น เพียงคุณมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบขนม คุณก็จะสนุกไปกับการทำขนมครั้งนี้ แต่หากใครไม่สามารถปั้นเองได้ ในปัจจุบันก็มี พิมพ์ขนม ให้เลือกใช้แทนการปั้น ทำให้การทำขนมสะดวกสบาย และง่ายดายมากยิ่งขึ้น หากพร้อมแล้วเราไปดูวัตถุดิบ และขั้นตอนการทำง่ายๆของเราได้เลย

วัตถุดิบทำ ถั่วกวน

  1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก 250 กรัม
  2. กะทิ 350 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 220 กรัม
  4. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  5. สีผสมอาหารตามชอบ

วัตถุดิบทำ วุ้น

  1. น้ำเปล่า 280 กรัม
  2. ผงวุ้น 10 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 32 กรัม
ลูกชุบ

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ขั้นตอนแรกในการ ทำลูกชุบ ให้เตรียมถั่วเขียวซีกด้วยการแช่น้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 6 ชั่วโมง แล้วนำมาล้างน้ำสะอาดจนกระทั่งน้ำใส จากนั้นนำมานึ่งให้สุกด้วยไฟแรงเป็นเวลาประมาณ 30 นาที ก่อนจะนำไปใส่ลงไปในเครื่องปั่น หรือโถปั่น ตามด้วยกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือป่น ปั่นรวมกันจนมีเนื้อเนียนละเอียด
  2. เมื่อส่วนผสมของถั่วได้ที่แล้วให้นำไปเทใส่ลงไปในกระทะเทฟล่อน เปิดเตากวนขนมด้วยไฟอ่อน จนถั่วงวดลง ไม่ติดกระทะ (ในขั้นตอนนี้ห้ามหยุดกวนนะคะ เพราะจะทำให้ถั่วเขียวติดกระทะไปจนถึงไหม้ก้นกระทะได้) เสร็จแล้วนำมาพักไว้ให้อุ่น
  3. ต่อมาเป็นขั้นตอนที่เรียกได้ว่าสนุกที่สุดในการ ทำลูกชุบ ให้นำถั่วกวนมานวดจนมีเนื้อเนียน จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดก้อนละ 9 กรัม หรือขนาดตามชอบ ก่อนจะนำมาปั้นเป็นรูปต่างๆด้วยมือตามจินตนาการ หรือหากใครมีพิมพ์ทำขนมก็สามารถนำมาใช้ได้ตามความสะดวก เมื่อได้รูปร่างที่ถูกใจแล้วให้นำมาเสียบไม้ลูกชิ้นพักไว้ทีละชิ้น เตรียมทำขั้นตอนต่อไป
  4. เมื่อ ปั้นลูกชุบ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำสีผสมอาหารมาผสมน้ำ ตามแต่จำนวนสีที่เลือกใช้ และนำ ขนมลูกชุบ ที่ปั้นไว้ชุบลงไปในสีผสมอาหาร หากต้องการแต่งเติมสีอื่นๆในบางส่วน ให้เลือกใช้ พู่กันลงสีลูกชุบ ทาสีลงไปบนตัวขนมบางส่วนแทนการจุ่มลงไปในสีผสมอาหารทั้งชิ้น เมื่อได้สีที่ถูกใจแล้วนำไปเสียบไว้บนโฟมดังเดิม เพื่อรอให้สีแห้ง 
  5. นำผงวุ้นมาใส่ลงไปในน้ำเปล่า คนให้เข้ากันแล้วพักไว้เป็นเวลา 20 นาที เพื่อให้ผงวุ้นกระจายตัวเต็มที่ แล้วนำไปต้มด้วยไฟกลางค่อนอ่อน คนให้ผงวุ้นละลายจนไม่เหลือเม็ดผงติดช้อนแล้วจึงเติมน้ำตาลทรายลงไปเพิ่มความหวาน คนให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากัน และรอจนส่วนผสมเดือด เป็นอันใช้ได้แล้วปิดเตาแล้วนำไปกรองด้วยกระชอน เพื่อให้วุ้นมีเนื้อเนียนขึ้น
  6. เมื่อวุ้นที่เตรียมไว้พออุ่นแล้วให้นำลูกชุบที่เตรียมไว้ชุบลงไปในวุ้นได้เลย โดยวนชุบให้หมดทุกชิ้นก่อนจะชุบอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง เพื่อให้ได้ความหนา และเงากำลังดี ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำออกจากไม้เสียบลูกชิ้นได้เลย เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ
ลูกชุบ

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ สูตรขนม ลูกชุบ พร้อมเรื่องราวน่ารู้ที่เราได้นำข้อมูลมาบอกต่อในบทความนี้ เราหวังว่าหลังอ่านจบแล้วทุกคนจะสามารถทำตามได้ด้วยตนเอง เสริมสร้างทักษะความคิดสร้างสรรค์ พร้อมความสนุกสนานด้านการรังสรรค์ ขนมไทยทำง่าย และได้รู้จักกับประวัติความเป็นมา พร้อมเรื่องราวที่น่าสนใจของ เมนูขนมหวาน สีสันสวยงามน่ารับประทานเมนูนี้กันมากขึ้น ผ่านบทความดีๆบทความนี้ที่เราตั้งใจมาบอกต่อ และอย่าลืมติดตาม สูตรขนมอร่อยๆ ของ https://avenueb-pgh.com/ ในบทความต่อไปนะคะ