มาการอง ขนมหวานสอดไส้ชิ้นเล็ก สีสันสดใส

มาการอง
สารบัญบทความ

มาการอง คือ ขนมที่มีลักษณะคล้ายคุกกี้ชิ้นจิ๋วรูปทรงกลมเนื้อกรอบหลากสีสันสองอันประกบกัน ทาบทับไส้นุ่มที่สามารถรังสรรค์ได้หลากรส ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม หรือแม้กระทั่งรสขม เช่น มาการองวานิลลา สตอรว์เบอร์รี่ อัลมอนด์ ช็อกโกแลต ผลไม้ต่างๆตามฤดูกาล ฯลฯ เมื่อรับประทานแล้วจะสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน และรสชาติอร่อยติดปาก หยิบทานชิ้นเดียวไม่เคยพอ ผสานกับสีสันหลากสีที่เห็นแล้วน่ารักเตะตา ชวนรับประทานเป็นอย่างมาก ดังนั้น เมนูขนมหวาน นี้จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ความเป็นมาของ มาการอง เบเกอรี่สีหวาน กรอบนอกนุ่มใน

ก่อนจะไปดูสูตรขั้นตอนการทำ เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ มาการอง กันให้ดีก่อน เพราะ ขนมฝรั่งเศส เมนูนี้มีเรื่องราวน่าสนใจอยู่หลายเรื่อง เริ่มจาก ประวัติมาการอง ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างยาวนานในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ เกิดความฝืดเคือง จนเรียกได้ว่าข้าวยากหมากแพงเลยก็ว่าได้ 

เรื่องราวของ มาการองฝรั่งเศส เริ่มต้นจากการที่มิชชั่นนารีชาวอิตาเลียนคนหนึ่ง เธอได้นำส่วนผสมหลักทั้งสามอย่าง คือ ไข่ขาว อัลมอนด์บด และน้ำตาลทราย ที่มีราคาไม่แพงในสมัยนั้นมาประกอบอาหารเพื่อประทังชีวิต โดยเธอได้นำส่วนผสมเหล่านั้นมารวมกันแล้วอบในเตาอบ ทำให้กลายเป็นขนมรูปร่างคล้ายคลึงกับจานบิน รสชาติหวานอร่อย เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ละลายในปาก และด้วยความที่มีราคาไม่แพง อร่อย มีคุณค่าทางสารอาหารเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ จึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวฝรั่งเศส และได้รับความนิยมมากในสมัยนั้น โดยปราศจากไส้หลากรสเหมือนอย่างปัจจุบัน

มาการอง
มาการอง

ขนมยอดนิยม ในประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นขนมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

มาการอง ที่เรารับประทานกันอยู่ในปัจจุบันนั้น ถูกรังสรรค์ดัดแปลงสูตรโดยเจ้าพ่อวงการ ขนมหวาน ในยุคสมัยต่อมา ปิแอร์ เออร์เม่ (PIERRE HERME) โดยเขาได้นำผลไม้ทั่วโลก มาทำเป็นไส้ขนมแล้วใช้ ฝามาการอง สองชิ้นมาประกบกันคล้ายแซนด์วิช ทำให้ขนมมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมลงตัว และมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ใครได้รับประทานก็ต่างชื่นชอบกันทั้งนั้น ทำให้กลายเป็น เมนูขนมหวาน ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และได้ถูกดัดแปลงสูตรให้มีรูปร่างหน้าตา รวมถึงรสชาติที่หลากหลายขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน

ขนมหวานเมนูนี้ มีเสน่ห์เฉพาะตัว

หากลองพินิจพิจารณา มาการอง สักหนึ่งชิ้น จะเห็นว่าเป็น เบเกอรี่ ที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล ไม่ใช่เพียงสีสันที่สวยงามชวนรับประทานเพียงเท่านั้น เพราะ เมนูมาการอง มีเสน่ห์ที่น่าสนใจอยู่หลายจุด ลักษณะของขนมก็ถือเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่าง โดยลักษณะรูปร่างของ มาการองที่ดี จะคล้ายกับโดมแบนๆ มองในมุมสูงแล้วจะเห็นเป็นรูปวงกลมผิวเรียบมัน และอีกส่วนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือส่วนด้านล่างของขนม เรียกว่า FOOT หรือ SKIRT หมายถึง รอยหยักคล้ายลูกไม้ หรือกระโปรงบางกรอบ ที่สำคัญกลิ่นหอมๆจากการรวมตัวกันของส่วนผสม ยิ่งทำให้เมนูนี้พิเศษกว่าเมนูไหนๆเลยก็ว่าได้

มาการอง
มาการอง

มา กา รอง กับ มา กา รูน ใช่ขนมเมนูเดียวกันหรือไม่ ?

หลายคนอาจเคยได้ยินการเรียกชื่อขนมด้วยชื่อที่แตกต่างกัน จนเกิดการเข้าใจผิดกันมาบ้างแล้ว จริงๆขนม มาการูน MACAROON เป็นขนมที่ถูกคิดค้นโดยชาวอเมริกัน พวกเขาได้ดัดแปลง ขนมอบ เมนูนี้มาจากสูตร มาการอง โดยใช้เนื้อมะพร้าวขูดใส่แทนอัลมอนด์ ในบางสูตรนั้นจะมีการผสมใส่ทั้งเนื้อมะพร้าว และอัลมอนด์ ส่วนผสมอื่นๆก็ยังคงเดิม ในปัจจุบันบางคนยังคงเรียกเมนูดังกล่าวนี้ว่า COCONUT MACAROON ซึ่งหมายถึงมาการูนมะพร้าว ดังนั้น ทั้งสองเมนูจึงถือว่าเป็นคนละเมนูกัน แต่ใครจะเรียกด้วยชื่อใดก็ไม่ถือว่าผิด เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก

ความนิยมของ ขนมมาการอง ในประเทศไทย

มาการอง เคยกลายเป็นกระแสฮิตกันทั่วประเทศไทยมาแล้ว ไม่ว่า ขายมาการอง ที่ไหนก็เป็นอันต้องหมดไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่วายต้องตามหามารับประทานให้ได้ โดย ราคามาการอง นั้นก็มีความแตกต่างกันออกไป ตามแต่ละแบรนด์ คุณภาพ และวัตถุดิบที่เลือกใช้ จากขนมที่เกิดขึ้นเพราะความยากจนก็ถูกดัดแปลงเป็นขนมที่มีราคามหาศาลได้ เริ่มต้นตั้งแต่ชิ้นละ 10 บาท ไปจนถึงชิ้นละ 20,000 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว หากรู้จักดัดแปลงสูตร เพิ่มมูลค่าของขนม เช่น การใส่แพคเกจน่ารักๆ การตกแต่งให้สวยหรู ดูแพง ฯลฯ ความนิยมที่มาแรงไม่มีตก จึงเป็นโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าขนมหวาน และเบเกอรี่ ได้สร้างเม็ดเงินมหาศาลมาแล้วหลายรายเลยทีเดียว

มาการอง
มาการอง

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ มาการอง สตรอว์เบอร์รี่ สีหวาน

ส่วนผสมหลักของเมนูนี้ตาม สูตรเบเกอรี่ ต้นฉบับมีเพียง อัลมอนด์ ไข่ขาว น้ำตาลทราย ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้มีราคาไม่แพง และสามารถหาได้ง่ายทั่วไป สำหรับใครที่อยากลอง ทำมาการอง ด้วยตัวเอง ต้องไม่พลาดกับสูตร มาการอง ไส้สตรอว์เบอร์รี่ สูตรไม่ต้องต้มน้ำเชื่อมให้วุ่นวาย หากใครอยากเปลี่ยนไปทำไส้อื่นๆก็สามารถนำสูตรนี้ไปดัดแปลงได้เลย โดยเราได้แบ่งสูตรการทำ ฝามาการอง และไส้มาการอง ทั้งในด้านของวัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย รวมทั้งบอกต่อเทคนิคการทำขนมให้สวยงาม เพื่อให้ง่ายแก่การทำ และหากใครหมั่นฝึกฝนจนทำได้ดี เมนูนี้ก็สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับคุณได้เช่นกันค่ะ

วัตถุดิบทำตัวขนม หรือ ฝามาการอง

  1. อัลมอนด์ป่น 60 กรัม
  2. น้ำตาลไอซิ่ง 90 กรัม
  3. ไข่ขาว (เก่า) 50 กรัม
  4. น้ำตาลทรายป่น 60 กรัม
  5. สีผสมอาหาร ตามชอบ
  6. สารแต่งกลิ่นแบบผง ตามชอบ

วัตถุดิบทำ ไส้สตรอเบอร์รี่

  1. เนยสดรสจืด 100 กรัม
  2. แยมสตรอว์เบอร์รี่ ปริมาณตามชอบ
มาการอง
มาการอง

ขั้นตอนวิธีการทำ ฝามาการอง

  1. ขั้นตอนแรกในการทำ มาการอง ไส้สตรอว์เบอร์รี่ เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม นำอัลมอนด์ป่น และน้ำตาลไอซิ่งใส่ถาดรองอบ ก่อนจะนำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 100 องศา เป็นเวลา 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อไล่ความชื้น (ความชื้นจะทำให้เนื้อมาการองเหนียว ไม่กรอบ และไม่เต็มฝา) จากนั้นพักไว้ให้เย็นแล้วนำมาร่อนรวมกัน และนำเข้าไปอบอีกครั้งด้วยอุณหภูมิเท่าเดิม เป็นเวลา 30 นาที เมื่อนำออกมาแล้วให้ใส่สารแต่งกลิ่นแบบผงลงไป (หากใครใช้แบบน้ำ สามารถใส่สารแต่งกลิ่นได้ในขั้นตอนต่อไปนะคะ)
  2. ต่อมาเป็นขั้นตอนการตี เมอแรงค์ โดยการใส่ไข่ขาวลงไปในชามผสม ตีด้วยเครื่องผสมอาหารสปีดต่ำให้เป็นฟองพอหยาบ แล้วทยอยใส่น้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ลงไปในระหว่างตี (แบ่งใส่ประมาณ 4 รอบ เมื่อพบว่าไม่เหลือเม็ดน้ำตาลแล้วจึงใส่น้ำตาลลงไปเพิ่ม) หลังจากส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้ใส่สีผสมอาหารลงไปเพิ่มสีสัน จากนั้นตีต่อจนตั้งยอด
  3. ใช้ไม้พายตะล่อมแป้งที่เตรียมไว้ในส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 จากนั้นผสมส่วนผสมของเมอแรงค์ลงไป แล้วตีให้เข้ากันด้วยความรวดเร็ว จนไม่เหลือเม็ดแป้ง เสร็จแล้วนำไปใส่ไว้ในถุงบีบเพื่อเตรียมทำขั้นตอนต่อไป
  4. เตรียมถาดรองอบ รองด้วยกระดาษไข หรือกระดาษรองอบ บีบ แป้งมาการอง ลงไปให้เป็นรูปวงกลมขนาดเท่ากัน โดยเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดกันระหว่างอบ จากนั้นกระแทกพิมพ์กับโต๊ะ และเคาะก้นถาดรองอบ เพื่อไล่ฟองอากาศ หากยังหลงเหลือฟองอากาศอยู่ให้ใช้ไม้จิ้มฟัน หรือไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงไปไล่ฟองอากาศ พักแป้งไว้ในห้องแอร์เป็นเวลา 40 นาที เพื่อให้หน้าขนมแห้งแข็งแรง ไม่แตกระหว่างอบ (วิธีเช็คว่าได้ที่หรือยัง ให้ใช้มือแตะแล้วหน้าขนมมีความแข็งเล็กน้อย ไม่ยุบลง)
  5. ระหว่างรอให้วอร์มเตาอบรอ และเมื่อตัว ฝามาการอง ได้ที่แล้ว สามารถนำขนมเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศา ไฟบนล่าง เปิดพัดลม เป็นเวลา 10 – 13 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุกดี วิธีเช็คคือให้ใช้มือจับไปที่ตัวมาการอง และโยกเบาๆ หากยังสามารถโยกได้ หมายถึงตัวขนมยังไม่สุก ให้อบต่อ 1 นาที และเช็คอีกครั้ง หากไม่สามารถโยกได้แล้วก็สามารถนำออกจากเตามาพักไว้ให้เย็นได้เลย

ขั้นตอนวิธีทำ ไส้มาการอง สตรอว์เบอร์รี่

  1. ขั้นตอนในการทำ ไส้บัตเตอร์ครีม สตรอว์เบอร์รี่ เตรียมชามผสมแล้วใสเนยสดรสจืดลงไป ตีด้วยเครื่องผสมอาหารสปีดต่ำให้เนยนิ่มลง ไม่จับตัวเป็นก้อนแล้วปาดด้วยไม้พายให้เนยมารวมตัวกันอยู่ตรงกลาง จากนั้นตีต่อด้วยสปีดสูงเป็นเวลา 3 นาที เมื่อเนยมีเนื้อนุ่มฟูแล้วให้ใส่แยมสตรอว์เบอร์รี่ลงไปด้วยปริมาณตามชอบ และตีต่อด้วยสปีดสูงสุดจนเข้ากันดีเป็นเวลา 3 นาที เสร็จแล้วนำไส้ไปใส่ถุงบีบเพื่อเตรียม ประกอบมาการอง ในขั้นตอนต่อไป
  2. ต่อมาให้นำฝามาการองที่เตรียมไว้มาจับคู่ให้ได้ขนาดเท่ากัน หงายฝามาการองชิ้นแรกขึ้นมาแล้วบีบครีมที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ก่อนจะประกบทับด้วยฝามาการองอีกหนึ่งชิ้นด้วยการหมุนให้ไส้เต็มฝาอย่างสวยงาม เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น นำมารับประทานได้ทันที
มาการอง

เทคนิคทำ มาการอง แบบมืออาชีพ ทำกี่ครั้งก็ไม่มีโป๊ะ

ขนม มา กา รอง เป็นขนมที่ทำค่อนข้างยาก หลายคนทำแล้วประสบกับปัญหามากมายในระหว่างทำ เช่น มาการองหน้าแตก ฝามาการองไม่สวยงาม วิธีแก้ปัญหามาการอง ที่สำคัญในการทำให้ฝาสวยงาม คือ น้ำตาลที่ไม่ได้ให้ความหวานเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยอุ้มอากาศ และโปรตีนในไข่ขาวให้แข็งแรง มีฟองอากาศที่สมบูรณ์ จึงควรใส่น้ำตาลตามสูตร อีกหนึ่งปัจจัยคือการทำมาการารอง วัตถุดิบอย่างไข่ขาว อัลมอนด์ ไอซิ่ง และอุปกรณ์ต้องมีความชื้นที่พอเหมาะ จึงควรให้ความสำคัญกับการเตรียมวัตถุดิบอย่างมาก สุดท้ายหลังจากอบมาการองเรียบร้อยแล้ว ห้ามข้ามขั้นตอนพักผิวมาการองเด็ดขาด เพราะหากผิวมาการองไม่แห้ง ในระหว่างอบความชื้นจะทำให้หน้าแตกไม่สวยงาม 

บทสรุป

ช่วงนี้สาวๆหลายคนคงกำลังกังวลเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น https://avenueb-pgh.com/ จึงปิดท้ายบทความสอนทำ มา กา รอง ด้วยการประเมินแคลอรี่ในมาการอง 1 ชิ้น มี 100 แคลอรี่ แม้จะอร่อยแค่ไหนก็อยากขอแนะนำให้ทานแต่พอดี ควบคู่กับการออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องทานให้หมดภายในวันเดียว เพราะ ขนมมาการอง สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยทั่วไปแล้วหากเก็บแช่เย็นไว้จะคงความอร่อยได้ถึง 2 สัปดาห์เลยทีเดียว