BANOFFEE PIE หรือขนม บานอฟฟี่ คือ เบเกอรี่พายสัญชาติอังกฤษ ทำมาจาก แครกเกอร์ หรือคุกกี้บด วิปปิ้งครีม กล้วย และลูกอม หรือคาราเมล ด้วยส่วนผสมที่หลากหลายทำให้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายชั้น ทั้งส่วนของฐานแครกเกอร์กรุบกรอบ ส่วนของคาราเมลหอมหวาน กล้วยเนื้อนุ่ม และวิปปิ้งครีมเนื้อละมุน แต่ละชั้นก็นับว่าเป็นการผสมผสานที่อร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่เมนูนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
BANOFFEE หรือชื่อของ เบเกอรี่ เมนู นี้ มาจากคำว่า BANANA (กล้วย) และ TOFFEE (ทอฟฟี่ หรือคาราเมล) เป็นการนำชื่อของวัตถุดิบหลักในการทำขนมมารวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นชื่อเรียกของ ขนมหวาน แสนอร่อยที่เรารู้จักในปัจจุบัน
ทำความรู้จัก บานอฟฟี่ เบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
หากคุณเป็นหนึ่งในสาวก ขนมหวานเบเกอรี่ เชื่อว่าต้องรู้จัก และเคยรับประทานเมนู บานอฟฟี่ กันมาบ้างแล้ว เพราะนอกจากจะได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ในประเทศไทยเองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เห็นได้จาก ร้านขนมหวาน หลายร้านต่างยกให้ บานอฟฟี่พาย เป็นเมนูขายดีประจำร้าน ไม่ว่าทำกี่ครั้งก็ขายหมดไม่มีเหลือ ในบทความนี้เราจึงขอพาไปทำความรู้จักเมนูนี้กันให้มากขึ้น ก่อนไปเรียนรู้ สูตรเบเกอรี่บานอฟฟี่
ประวัติความเป็นมาของ บานอฟฟี่พาย
ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่า บานอฟฟี่ มีที่มาอย่างไร ? มาจากไหน? เกิดขึ้นเมื่อไหร่? แล้วใครกันละเป็นผู้คิดค้น? เราจะขอตอบคำถามถึง ประวัติบานอฟฟี่ ให้ได้คลายข้อสงสัยกันในบทความนี้ โดยบานอฟฟี่ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 ในร้านอาหารเดอะฮังกรีมังก์ เมืองเจวิงตัน อีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ
สูตรบานอฟฟี่ เบเกอรี่ยอดนิยม ถูกคิดค้นโดยเจ้าของร้าน และพ่อครัวของร้านอาหารเดอะฮังกรีมังก์ คือ “นิเกล แม็กเคนซี” และ “เอียน ดาวดิง” มีข้อมูลระบุว่า พวกเขาได้ดัดแปลงมาจากสูตร พายบลัมส์คอฟฟี่ทอฟฟี่ หนึ่งในพายอเมริกัน ด้วยการใส่ทอฟฟี่กับนมข้นหวาน หรือที่เราเรียกกันว่าคาราเมล และแต่เดิมใช้แอปเปิ้ล , ส้มแมนดาริน ก็ได้เปลี่ยนมาใช้กล้วยแทน และตั้งชื่อว่า BANOFFEE ตามชื่อส่วนผสมหลักของ ขนมโฮมเมด
สูตรบานอฟฟี่ มีหลากหลายสูตร
ในปัจจุบัน บานอฟฟี่ ถือเป็นหนึ่งใน เบเกอรี่ยอดนิยม ขนมขายดี ประจำร้านขนมหวานทั่วโลก ทำให้เกิดการรังสรรค์ดัดแปลง สูตรขนม ขึ้นมาหลากหลายสูตร ใช้ส่วนผสม และเคล็ดลับที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้ซื้อมีทางเลือกที่มากขึ้น สามารถเลือกซื้อเลือกทานได้อย่างไม่มีเบื่อ เช่น บานอฟฟี่พายคาราเมล , บานอฟฟี่ทาร์ต , บานอฟฟี่เค้ก , บานอฟฟี่ช็อกโกแลต , บานอฟฟี่โอริโอ้ , บานอฟฟี่ไมโล , บานอฟฟี่ชาเขียว ฯลฯ
หรือแม้แต่การนำบานอฟฟี่มาใส่ภาชนะใสขนาดเล็ก มองเห็นตัวขนมแต่ละชั้นได้อย่างชัดเจน เชิญชวนให้หยิบไปรับประทานสักชิ้น แต่ https://avenueb-pgh.com/ ขอบอกเลยว่าแม้จะเป็นชิ้นเล็กๆ แต่เมื่อตักรับประทานแล้วความอร่อยไม่แพ้ขนาดใหญ่เลย เพราะส่วนผสมแต่ละชั้นนั้นช่างลงตัวไม่มีที่ติ ใครได้ทานก็ต้องติดใจกันทั้งนั้น
วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ บานอฟฟี่ คาราเมล เบเกอรี่ทำง่าย ไม่ใช้เตาอบ
หลังจากทำความรู้จักเมนู บานอฟฟี่ กันมาพอสมควรแล้วก็เดินทางมาถึง สูตร บานอฟฟี่เค้ก ทำง่าย เบเกอรี่ไม่ง้อเตาอบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีอุปกรณ์ แต่ต้องการทำเค้กด้วยตัวเองเพื่อรับประทาน ทำเบเกอรี่ขาย หรือมอบให้กับคนพิเศษเป็นของขวัญแทนใจในวันสำคัญ
บานอฟฟี่วิธีทำ นั้นง่ายกว่าเบเกอรี่ทั่วไป เพียงแค่เตรียมส่วนผสมแล้วลงมือทำเพียงไม่นาน แม้จะเป็นมือใหม่ไม่เคยทำขนมมาก่อนเลยก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ โดยใช้สูตรที่เราได้เตรียมมาให้ได้ศึกษากันในบทความนี้ และสำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า บานอฟฟี่ใช้อะไรบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย
วัตถุดิบทำ ซอสคาราเมล
- น้ำตาลทราย 145 กรัม
- วิปปิ้งครีม 145 กรัม
- สารแต่งกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
- เนยสดรสเค็ม 115 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วัตถุดิบ ทำบานอฟฟี่
- แครกเกอร์ 300 กรัม
- เนยสดรสเค็ม 115 กรัม
- กล้วยหอมหั่นชิ้น 3-4 ผล
- วิปปิ้งครีม 200 กรัม
- ผงโกโก้ ปริมาณตามชอบ
ขั้นตอนวิธีการทำ ซอสคาราเมลบานอฟฟี่
- ขั้นตอนแรกในการ ทำบานอฟฟี่ เริ่มจากการทำคาราเมล โดยการผสมวิปปิ้งครีมให้เข้ากันกับสารแต่งกลิ่นวานิลลา แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟให้ร้อน ก่อนนำออกมาพักไว้ จากนั้นตั้งหม้อด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป ใช้ไม้พายคนให้น้ำตาลส่วนแรกละลาย จึงใส่น้ำตาลส่วนที่เหลือลงไปละลายต่อจนกว่าจะหมดเม็ดน้ำตาล และกลายเป็น ซอสคาราเมล เข้มข้น
- เมื่อได้คาราเมลสีเข้มตามต้องการแล้วให้ปิดเตา และใส่ครีมที่ผสมไว้ลงไปกวนให้เข้ากัน (การใส่ครีมลงไปจะช่วยหยุดสีของคาราเมล ให้ยังคงมีสีสวยสดอยู่) หากส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อน สามารถเปิดเตาตั้งไฟละลายส่วนผสมได้
- ใส่เนยสดรสเค็มลงไปในซอสคาราเมลในขณะที่ปิดเตาแล้ว ใช้ไม้พายกวนให้ส่วนผสมเข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น หรือนำไปแช่เย็นให้คาราเมลเซทตัว
ขั้นตอนวิธีการทำ ขนมบานอฟฟี่
- นำแครกเกอร์ไปปั่น หรือบดให้ละเอียด พักไว้ในชามผสมแล้วใส่เนยสดรสเค็มละลายลงไปผสม
- เตรียมพิมพ์เค้กขนาดสองปอนด์ (แนะนำให้ใช้พิมพ์แบบถอดก้นได้) หรือภาชนะสำหรับใส่ขนมอื่นๆ ตักแครกเกอร์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปแล้วเกลี่ยให้ทั่วพิมพ์ เพื่อเป็นฐาน ขนม บานอฟฟี่ เมื่อได้ความหนาที่พึงพอใจแล้วให้กดแครกเกอร์ลงไปกับพิมพ์ให้แน่น เสร็จแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซไว้ให้เซทตัว
- ต่อมาใส่วิปปิ้งครีมลงไปในชามผสม ตามด้วยกลิ่นวานิลลา เปิดเครื่องผสมอาหารสปีดสูงสุดตีให้วิปปิ้งครีมตั้งยอดกลาง พักไว้เตรียมทำขั้นตอนต่อไป
- นำคาราเมลที่เตรียมไว้มาตักใส่ลงไปบนฐานแครกเกอร์เป็นชั้นที่สอง ก่อนจะใช้ช้อนเกลี่ยให้ทั่วพิมพ์
- จัดวางกล้วยหอมลงไปบนตัวขนมให้สวยงามเป็นชั้นที่สาม ราดซอสคาราเมลซ้ำลงไปปิดทับตัวกล้วยให้ทั่วเป็นชั้นที่สี่ สำหรับชั้นสุดท้ายใส่วิปปิ้งครีมที่เตรียมไว้ลงไป และเกลี่ยให้หน้าเรียบเนียนเสมอกัน ก่อนนำไปแช่เย็นช่องธรรมดาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือข้ามคืน เพื่อให้ขนมเซทตัว
- เมื่อรอจนขนมเซทตัวดีแล้วให้โรยหน้าวิปปิ้งครีมด้วยผงโกโก้ และนำออกจากพิมพ์มารับประทานได้เลยค่ะ
แนะนำเทคนิค เคล็ดไม่ลับในการทำบานอฟฟี่
เทคนิคง่ายๆในการทำบานอฟฟี่ เริ่มจากการทำคาราเมล ในระหว่างเคี่ยวไม่ควรคนมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้น้ำตาลตกผลึก หากใครทำแล้วเกรงว่าขนมจะไหม้ก็สามารถเขย่าหม้อเบาๆได้ หลังจากเคี่ยวเสร็จแล้วแนะนำว่าไม่ควรใส่ของเหลวที่เย็นลงไปในคาราเมลที่ทำเสร็จใหม่ๆ ยังคงมีความร้อนจัดอยู่ เพราะจะทำให้คาราเมลกระเด็น และเกิดความอันตรายต่อผู้ทำได้ จึงควรนำวิปปิ้งครีมไปอุ่นให้ร้อนก่อนใส่ลงไป
อีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการเลือกวัตถุดิบหลักอย่าง “กล้วยหอม” ควรเลือกใช้กล้วยหอมสุกเท่านั้น เพราะจะทำให้ได้รสชาติที่หวานละมุนกว่า
บทสรุป
จบไปแล้วกับบทความ สอนทำบานอฟฟี่ แบบง่ายๆ พร้อมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับบานอฟฟี่ เมนูโปรดของใครหลายๆคน ซึ่งหากให้ซื้อรับประทาน บานอฟฟี่ราคา ถือว่าสูงมากในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจค่อนข้างย่ำแย่ การ ทำบานอฟฟี่ ทานเอง จึงตอบโจทย์ที่สุด เพราะสามารถทำได้ง่าย วัตถุดิบราคาถูก เช่น กล้วย ที่สามารถหาได้ง่ายทั่วไป บางบ้านปลูกเองเยอะก็สามารถนำมาทำ บานอฟฟี่ขาย เพิ่มมูลค่าได้นะคะ