ในปัจจุบันการ ทำขนมไทย ถือเป็นการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ที่สืบทอดส่งต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน บ้างเป็น ขนมไทยทำง่าย บ้างเป็นขนมไทยที่ต้องอาศัยความประณีต ละเอียดอ่อน พิถีพิถัน เพื่อให้ขนมไทยแต่ละชิ้นออกมามีรูปลักษณ์ และสีสันสวยงามน่ารับประทาน รสชาติอร่อยหวานหอม ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงถึงความตั้งใจของคนทำ และในบทความนี้ https://avenueb-pgh.com/ จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ช่อม่วง ขนมไทยมีไส้ที่เป็นของว่างทานเล่นของคนไทยสมัยก่อน แต่หาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมาของขนม ช่อม่วง ขนมไทยในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
ประวัติช่อม่วง เป็นหนึ่งใน ขนมไทยโบราณ ที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 (สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) และ ช่อม่วง ได้ถูกกล่าวถึงในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ความว่า “ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม คิดสีสไบคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน” ซึ่งหากถอดคำประพันธ์นี้แล้วหมายถึง ขนมช่อม่วงนั้นมีรสชาติที่ดี มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นของดอกไม้ สีม่วงที่ห่อหุ้มไส้คล้ายกันกับผ้าสไบที่ใช้ห่อหุ้ม เป็นการกล่าวถึงรูปลักษณ์ รสชาติ และกลิ่นของขนมชิ้นนี้นั่นเอง
ขนม ช่อ ม่วง ขนมที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างครบถ้วน
ช่อม่วงคือ ขนมไทยที่ทำทานในวังในสมัยโบราณกาล มีลักษณะภายนอกเป็นแป้งที่ถูกจับจีบอย่างประณีต จนเป็นรูปดอกไม้บาน แต่งเติมสีสันม่วงสดใสด้วยสีสกัดอัญชันธรรมชาติ ด้วยความประณีต พิถีพิถัน ราวกับ ขนมหวาน งานประดิษฐ์ชิ้นหนึ่ง ทำให้ ช่อม่วง ดูนุ่มนวลกลายเป็นขนมไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ขนมไทยเมนูนี้พิเศษ แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยทั้งเรื่องที่เป็นหนึ่งใน ขนมชาววัง ใน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน และศิลปะจากความประณีตในการทำ
หนึ่งในขนมไทยโบราณหาทานยาก ไม่มีขายทั่วไป
ในปัจจุบัน ช่อม่วง กลายเป็น ขนมไทยหาทานยาก เนื่องจากขั้นตอนการทำขนมที่ต้องใช้ความตั้งใจ ประณีต พิถีพิถันในการจับจีบขนมแต่ละชั้นด้วยมือ และใช้เวลาในการทำขนมนาน อีกทั้งยังเป็นขนมโฮมเมดทำสดๆ ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน จึงไม่นิยมนำมาทำขายทั่วไป มักจะพบเจอได้ตามร้านที่รับทำขนมไทย หรือตามพิธีมงคลเท่านั้น แต่หากใครได้ลองทานแล้วจะรู้ว่าไม่เหมือนขนมชิ้นอื่นๆ เพราะ ขนมไทยสอดไส้ ได้ทั้งคาวหวาน เช่น ไส้ไก่ , ไส้หมู , เนื้อสัตว์ต่างๆ ไส้หวาน เป็นต้น ช่อม่วงรสชาติ นับว่ามีความหลากหลาย เข้ากับได้ดีกับแป้งเหนียวนุ่มยืดหยุ่นสู้ฟันที่ใช้ห่อหุ้มตัวไส้ รับรองได้เลยว่าหากได้ลองทานแล้วเป็นอันต้องติดใจกันทุกราย
วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ ขนมช่อม่วงไส้ไก่ สูตรแป้งนุ่ม
ในบทความนี้เราจะขอพาทุกคนมาเรียนรู้ สูตรขนมไทย ช่อม่วง เพื่อทำทานด้วยตัวเอง เพราะหากจะหาซื้อแล้วบอกเลยว่าเป็นเรื่องยาก และมีราคาสูงกว่าขนมไทยทั่วไป การทำทานด้วยตัวเองจึงถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์สูตร ขนมไทยชาววัง ของเราไม่ให้ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา หากใครอยากลองทำแล้วแนะนำให้เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนขั้นตอนวิธีการทำไม่ยากเกินความสามารถ เพียงแค่ท่านนำแป้งมากวนให้เป็นก้อน แต่งเติมสีสันด้วยสีธรรมชาติจากดอกอัญชัน (หากใครหาไม่ได้ สามารถใช้สีผสมอาหารแทนได้นะคะ) จากนั้นจับจีบเป็นกลีบดอกไม้ด้วยแหนบช่อม่วง ก่อนจะนำไปนึ่งให้สุกด้วยเวลาเพียงไม่นาน
วัตถุดิบทำ ไส้ช่อม่วง
- น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- สามเกลอ 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงสับ 60 กรัม
- เนื้อไก่ สับ 150 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ไชโป๊ หวาน 100 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
- ถั่วลิสง คั่ว ป่น 100 กรัม
วัตถุดิบทำตัว ขนมช่อม่วง
- แป้งข้าวเจ้า 130 กรัม
- แป้งท้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำดอกอัญชัน 250 มิลลิลิตร
- มะนาว 1 ซีก
- น้ำมันพืช 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนวิธีการทำ ขนม ช่อม่วงไส้ไก่
- ขั้นตอนแรกในการทำ ขนมช่อม่วง เริ่มจากการทำไส้ขนม โดยการตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟกลาง เมื่อกระทะร้อนแล้วใส่น้ำมันกระเทียมเจียว และสามเกลอลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยหอมแดงสับลงไปผัดต่อให้ส่งกลิ่นหอม จากนั้นใส่ไก่สับลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เมื่อเนื้อไก่เริ่มสุกแล้วให้ใส่ไชโป๊ และน้ำตาลปี๊บลงไปผัดอย่างต่อเนื่องให้น้ำเริ่มแห้งแล้วใส่ถั่วลิสงลงไปผัดต่อให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำไส้ นำไปพักไว้ให้เย็น
- ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำ แป้งช่อม่วง เตรียมชามผสมใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป ตามด้วยแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเหนียว และแป้งมัน ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมของแป้งเข้ากันดี และนำมะนาวมาบีบใส่น้ำดอกอัญชันที่เตรียมไว้แล้วคนให้เข้ากัน (มะนาวช่วยให้น้ำดอกอัญชันเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีม่วง) ก่อนจะเทลงไปผสมกับแป้ง พร้อมกับน้ำมันพืช ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี
- นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2 เทลงในกระทะ เปิดเตาด้วยไฟกลางแล้วกวนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แป้งสุกทั่วกัน และเริ่มจับตัวเป็นก้อนจนสามารถปั้นได้ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที นำมาพักไว้ในถาดให้คลายความร้อนแล้วนวดด้วยมือให้เป็นก้อนเดียวกัน มีความยืดหยุ่น
- ปั้นแป้งให้เป็นรูปทรงกลมขนาดประมาณลูกละ 18 กรัม แล้วนำมาแผ่ออกให้แบน และตักไส้ขนมที่เตรียมไว้ใส่ลงไปตรงกลาง ก่อนจะปั้นกลับเป็นรูปทรงกลมห่อหุ้มไส้ให้มิด ไม่บางจนเกินไป
- นำ แหนบช่อม่วง มาหนีบด้านข้างให้รอบคล้ายกลีบของดอกไม้ โดยระมัดระวังไม่ให้ถึงไส้ขนม ต่อด้วยการหนีบสับหว่างในชั้นที่สอง และชั้นต่อไปให้สวยงาม (หากแป้งเริ่มติดแหนบให้นำแหนบไปจุ่มลงในน้ำมันกระเทียมเจียว ก่อนนำมาหนีบต่อ) เสร็จแล้วนำมาเรียงใส่ในซึ้ง รองด้วยใบตองชโลมน้ำมันกระเทียมเจียว
- ตั้งหม้อนึ่งด้วยไฟกลาง ต้มน้ำให้เดือด ก่อนจะนำขนมลงไปนึ่งเป็นเวลาประมาณ 5 นาที ครบเวลาแล้วให้นำออกจากเตา และใช้น้ำมันกระเทียมเจียวชโลมตัวขนมให้ทั่ว เพื่อเพิ่มความเงางาม เมื่อขนมเริ่มเย็นตัวแล้วให้จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้แล้วค่ะ
เคล็ดไม่ลับในการทำขนม ช่อม่วง
นอกจากการ จับจีบช่อม่วง ที่ต้องพยายามทำ และหมั่นฝึกฝนเพื่อให้สวยงามแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับในการ ทำช่อม่วง เลยก็คือ ในขั้นตอนการกวนแป้ง แนะนำให้กวนด้วยไฟอ่อนๆ เพราะจะทำให้แป้งจับตัวกันได้ดี แถมยังทำให้สีที่ใส่ลงไปนั้นมีความสม่ำเสมอ น่ารับประทานค่ะ
บทสรุป
จบลงไปแล้วกับข้อมูลดีๆ และ สูตรขนม ช่อม่วงไส้ไก่ ที่เราได้นำมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตาม สำหรับคนที่ทำขนมอยู่แล้ว หรือรักในการทำขนม คงมองว่าการทำเมนูนี้ไม่ถือเป็นเรื่องยากจนเกินไป แต่สำหรับบางคนที่เป็นมือใหม่ ไม่เคยทำขนมมาก่อนเลย คงเป็นเมนูที่ถือว่ายากแบบสุดๆ แต่หากได้รับประทานแล้วรับรองว่าอร่อยจนหายเหนื่อย คุ้มค่ากับที่ลงมือทำอย่างแน่นอน ก่อนจะจากกันขอบอก วิธีทานช่อม่วง เมนูนี้ให้อร่อย ต้องทานไส้เค็มคู่กับผักสด และพริกขี้หนู เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น แต่หากใครทำไส้หวานก็สามารถทานได้เลยนะคะ